วันพฤหัสบดี, กันยายน 10, 2009
คนเกินร้อย หัวใจก็เกินร้อย (เรื่องสั้น เรื่องจริง)
1.จากเรื่องสั้นเรื่องจริง “คนเกินร้อย หัวใจเกินร้อย” เขาใช้หลักบริหารความเสี่ยงหรือไม่ อย่างไร
- จากเรื่องสั้นเรื่องจริง “คนเกินร้อย หัวใจเกินร้อย” เข้าใช้หลักการบริหารความเสี่ยงคือ เขามีการระบุความเสี่ยง ที่จะส่งผลต่อการอาชีพของเขาคือ กาขับรถแท็กซี่ กล่าวคือ มี การระบุเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่ออาชีพขับรดแท็กซี่ นั่นคือสภาวะเศรษฐกิจ เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เพราะผู้โดยสารต่างประเทศน้อยลง ซึ่งโดยปกติเขาจะประจำที่โรงแรมเอเชีย แต่ก่อนก็ได้เหมาไปต่างจังหวัดพัทยา ตลาดน้ำ หรือที่อื่นๆ บ้าง ซึ่งการไปแบบนั้นสบายเนื่องจากไม่ต้องมาทุกข์ร้อนทุกข์ใจว่าวันนี้จะได้ผู้โดยสารหรือไม่ เหมาไปกลับ หรือเหมาไปอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับค่าเช่ารถและค่าใช้จ่ายประจำวัน แต่ปัจจุบันสภาวะเปลี่ยนไป สมัยนี้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก สภาพแวดล้อมไม่ดี การขายยาบ้า ยาเสพติดมากขึ้น
การระบุความเสี่ยงด้านเครดิตและการจัดการกับความเสี่ยง จะเห็นจากที่เขาบอกให้ระมัดระวังเรื่องคอมพิวเตอร์ Notebook เวลาลงจากแท็กซื่อาจจะลืม เขาก็บอกว่าครั้งต่อไปควรจะใช้กระเป๋าขนาดเล็กๆ แล้วสะพายเอาเพื่อจะได้ไม่ลืม ถ้าลืมแล้วบางครั้งแท็กซี่ก็ไม่ทราบมีผู้โดยสารขึ้นมานั่งต่ออาจจะหยิบเอาไปต่อ จะมาโทษแท็กซี่ ซึ่งมันทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการราก็รู้สึกว่า คนขับคนนี้เป็นคนดี ใส่ใจในความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ อีกอย่างการกระทำเช่นนี้ยังเป็นการสร้างเครดิตให้กับคนขับแท็กซี่ และยังเป็นการหาวิธีที่เหมาะสมสำหรับบริหารจัดการความเสี่ยงแต่ละประเภทให้มีผลกระทบลดลง เช่น กรณีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และกรณีที่เขา เคยติดเหล้า เงินหามาได้ก็กินเหล้า ขับรถได้เงินก็กินเหล้า เป็นอยู่นานหลายปี จนในทีสุดคิดได้เพราะภรรยายื่นคำขาดให้ และเขาก็ผ่านจุดนั้นมาได้ วิธีการของเขา คือ เวลาช่วงบ่ายจะกระวนกระวายอยากกินเหล้ารู้สึกไม่สดชื่น เขาก็ใช้วิธีกินข้าวแทนให้อิ่มๆ หลังจากนั้น เพื่อนๆ ชวนกินเหล้าร่างกายก็สามารถปรับได้ว่าไม่อยากจะกิน และใจเขาก็รู้สึกว่าไม่อยากจะกินเหล้าแล้ว หมดเพราะมันมามากพอแล้ว สุดท้ายเขาเลิกได้ ชีวิตเขาก็ดีขึ้น เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีการจัดการความเสี่ยงได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว นี่ซิ คนเกินร้อย หัวใจเกินร้อยตัวจริง
2. เขาใช้หลักในการหาลูกค้าตามเป้าหมายหรือไม่อย่างไร
- “โดยปกติเขาจะประจำที่โรงแรมเอเชีย แต่ก่อนก็ได้เหมาไปต่างจังหวัดพัทยา ตลาดน้ำ หรือที่อื่นๆ บ้าง ซึ่งการไปแบบนั้นสบายเนื่องจากไม่ต้องมาทุกข์ร้อนทุกข์ใจว่าวันนี้จะได้ผู้โดยสารหรือไม่ เหมาไปกลับ หรือเหมาไปอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับค่าเช่ารถและค่าใช้จ่ายประจำวัน แต่ปัจจุบันสภาวะเปลี่ยนไปชีวิตตอนนี้ แต่ละวันก็วิ่งตั้งแต่บ่ายถึงเย็นก็ได้เงินพอสมควร วิ่งช่วงกลางคืนก็ได้เงินพอสมควร”
จะเห็นว่าเขาประจำที่โรงแรมเอเชีย มีลูกค้า ชาวต่างชาติเหมาไปบ้าง ซึ่งก็ดีไม่ต้องมากังวลว่าวันนี้จะมีผู้โดยสารขึ้นรถเราหรือไม่ เพราะแค่มีคนเหมาไปก็อย่างเดียวก็เพียงพอกับค่าใช้จ่ายประจำวันแล้ว ซึ่งเขาไม่มีการวางเป้าหมายว่าวันนี้จะต้องได้ลูกค้ากี่คน ได้เงินเท่านี้เท่านี้นะ เพียงแต่วันวันหนึ่งเขาวิ่งรถเป็นสองช่วงคือ วิ่งตั้งแต่บ่ายถึงเย็น และวิ่งช่วงกลางคืน ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรมารับประกันได้แน่นอนว่า มันจะพอสำหรับค่าเช่ารถและค่าใช้จ่ายประจำวันของเขาหรือไม่ วันไหนมีคนเหมาก็ดีไปแต่วันไหนไม่มีก็ต้องวิ่งรถหาลูกค้าเรื่อยๆ ได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่มีอะไรแน่นอน
3.ข้อเสนอแนะในการบริหารความเสี่ยง
- ในการบริหารความเสี่ยงนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ การระบุความเสี่ยง การจัดการความเสี่ยง การลด/ควบคุมความเสี่ยง หากมีการสื่อสารแก่บุคลากร(ที่เกี่ยวข้อง)ทุกคนให้ได้รับรู้และเข้าใจอย่างทั่วถึง เพื่อช่วยให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เมื่อมีการจัดการที่ดี จะสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจในการมาใช้บริการอีกด้วย